خستهکننده
این پست به دلیل یکنواختی و تکرار بیش از حد، بازخورد گستردهای از کاربران دریافت کرده است. ในวงการคริปโต เราต่างคุ้นเคยกับข่าวหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ โดยเฉพาะคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือที่เราชอบเรียกกันสั้นๆ ว่า SEC ที่ก่อนหน้านี้มักจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับวงการสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่ตลอด
.
แต่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา บรรยากาศได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อ Paul Atkins ประธาน SEC คนใหม่ ได้ออกแถลงการณ์ในหัวข้อ Crypto Task Force Roundtable ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นสัญญาณบวก แต่คือการประกาศจุดยืนใหม่ที่อาจเป็น "จุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์" ของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล
.
Atkins กล่าวว่า “DeFi คือสิ่งที่สะท้อนจิตวิญญาณความเป็นอเมริกัน” ซึ่งนี้ไม่ใช่แค่คำพูดสวยหรู แต่มันคือการเปลี่ยนจากการวางตัวเป็น "ภัยคุกคาม" ไปสู่การเป็นผู้สนับสนุน "นวัตกรรม”
.
Paul Atkins กล่าวว่า DNA ของอเมริกาคือ เสรีภาพทางเศรษฐกิจ (Economic Liberty) และ สิทธิในทรัพย์สินส่วนบุคคล (Private Property Rights) ซึ่งระบบ DeFi ที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานดูแลสินทรัพย์ของตัวเองได้ 100% ผ่านเทคโนโลยี Self-Custody คือภาพสะท้อนของหลักการนี้ เขาย้ำว่า "สิทธิในการถือครองทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ควรหายไปเมื่อเราก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัล"
.
Atkins มองว่าบล็อกเชนไม่ใช่อะไรที่ต้องหวาดกลัว แต่เป็นนวัตกรรมที่สอดคล้องกับจิตวิญญาณของประเทศที่พร้อมจะปฏิวัติวงการการเงินให้ดีขึ้น
.
นี่คือการเปลี่ยนกรอบความคิดของหนึ่งในหน่วยงานที่มีอิทธิพลต่อโลกคริปโตมากที่สุดแห่งหนึ่งของโกลจากเดิมที่มองคริปโตด้วยสายตาแห่งความกังวล มาเป็นการยอมรับว่าเทคโนโลยีนี้คือวิวัฒนาการที่สอดคล้องกับหลักการพื้นฐานของประเทศ
.
ยุคที่ผ่านมา SEC ภายใต้การนำของ Gary Gensler ประธานคนก่อนได้ใช้แนวทาง "กำกับดูแลด้วยการบังคับใช้กฎหมาย" (Regulation by Enforcement) โดยไล่ฟ้องโครงการคริปโตจำนวนมาก สร้างความกลัวและความไม่แน่นอนไปทั่ววงการ
.
แต่ Paul Atkins ได้ชี้ให้เห็นว่า SEC ได้เรียนรู้แล้วจากวิกฤตการณ์ที่ผ่านมาอย่าง FTX, Celsius หรือ Terra ว่าปัญหาที่แท้จริงเกิดจาก ความล้มเหลวของ "ตัวกลาง" ที่รวมศูนย์อำนาจ (Centralized Finance - CeFi) ไม่ใช่ตัวเทคโนโลยี DeFi ที่ทำงานอย่างโปร่งใสบนบล็อกเชน
.
โดยหลังจากนี้
❌CeFi จะถูกกำกับเข้มขึ้น: แพลตฟอร์มที่มีลักษณะเป็นตัวกลางจะเจอกฎระเบียบที่เข้มงวดเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค
✅DeFi จะได้รับการผ่อนปรน: โปรโตคอล DeFi ที่พิสูจน์แล้วว่ากระจายศูนย์อย่างแท้จริงและมีโครงสร้างที่มั่นคง จะได้รับการปฏิบัติที่ผ่อนคลายกว่ามาก
.
Atkins ยอมรับว่ากฎหมายหลักทรัพย์อายุกว่า 100 ปีนั้นล้าหลังและไม่สามารถนำมาใช้กับโลกที่ไม่มีตัวกลางอย่าง DeFi ได้ เขาประกาศว่าจะ ไม่ยอมให้กฎหมายเก่ามาเป็นอุปสรรคของนวัตกรรม และได้เสนอแนวคิดที่สำคัญที่สุด นั่นคือ:
🔹Innovation Exemption (กรอบยกเว้นเพื่อส่งเสริมนวัตกรรม): พูดให้เข้าใจง่าย มันคือ "Regulatory Sandbox" ที่จะเปิดพื้นที่ให้โปรเจกต์คริปโตสามารถพัฒนาและทดสอบผลิตภัณฑ์ของตนเองได้ภายใต้การดูแลของ SEC ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยมีกฎระเบียบที่ผ่อนปรนกว่าปกติ เพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
🔹Developer ไม่ใช่อาชญากร: เขายืนยันว่าผู้สร้างหรือนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ไม่ควรต้องรับผิดหากมีคนนำโค้ดของพวกเขาไปใช้ในทางที่ผิด เปรียบเทียบเหมือนกับ "เราจะไม่ฟ้องคนสร้างถนน หากมีโจรใช้ถนนเส้นนั้นเดินทางไปปล้นธนาคาร"
🔹Staking และ Mining ไม่ผิดกฎหมายหลักทรัพย์: ข่าวดีที่สุดสำหรับผู้คนในวงการคือ SEC ได้ข้อสรุปแล้วว่าการทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรม (Validator) ในระบบ Proof-of-Stake หรือเป็นนักขุด (Miner) ในระบบ Proof-of-Work ไม่ถือเป็นธุรกรรมที่เกี่ยวกับหลักทรัพย์
.
คำแถลงของ Paul Atkins ไม่ใช่แค่คำพูดลอยๆ แต่เป็นการส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ นี่คือสิ่งที่นักลงทุนและผู้ที่สนใจในคริปโตต้องจับตามอง
.
ความกลัวและความไม่แน่นอนที่เคยปกคลุมตลาดคริปโต กำลังจะหมดไป บริษัทและนักพัฒนาจะกล้าที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมมากขึ้น
.
เมื่อมีกฎระเบียบที่ชัดเจนและส่งเสริมนวัตกรรม กองทุนและสถาบันการเงินขนาดใหญ่ที่เคยลังเล จะมีความมั่นใจและพร้อมที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดคริปโตและ DeFi มากขึ้น
.
ด้วยวิสัยทัศน์ที่จะทำให้ "อเมริกาเป็นเมืองหลวงคริปโตของโลก" สหรัฐฯ กำลังจะดึงดูดบุคลากรและบริษัทที่มีความสามารถจากทั่วโลกกลับมา
.
การเปลี่ยนแปลงท่าทีของ SEC ในครั้งนี้ อาจเรียกความเชื่อมั่นในตัว DeFi ให้กลับมาอีกครั้ง และอาจกระตุ้นให้เกิน Alt Season ที่เรารอคอยมาแสนนาน ก็เป็นได้...
ธุรกิจ Web2 หลายล้านแห่งเชื่อมต่อกับ Web3 Pi ผ่าน SDK, KYB, สัญญาอัจฉริยะได้อย่างไร
จนถึงปัจจุบัน เครือข่าย Pi มีผู้บุกเบิกทั่วโลกมากกว่า 100 ล้านคนที่ถือเหรียญ Pi
มีการสร้างและสรุป dApps มากกว่า 100 รายการโดย SDK ผ่านทางโอเพ่นซอร์ส PiOS โดยมีจำนวนเล็กน้อยที่ถูกสร้างและกำลังถูกย้ายไปยัง Mainnet
การแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ Web3 จำนวนมากได้หลีกเลี่ยง KYB และดำเนินการบน BlockchainPi Mainnet
แล้วเราจะรออะไรอีกเพื่อให้ PICOIN VALUE สามารถตอบสนองความต้องการสาธารณูปโภคที่แท้จริงของเศรษฐกิจแบบดั้งเดิมได้?
- องค์กรต่างๆ และบริษัท Web2 กำลังดิ้นรนกับเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน การขาดความโปร่งใส การควบคุมสกุลเงินดิจิทัล และอุปสรรคในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน
- การฟอกเงินแพร่หลาย สินค้าลอกเลียนแบบและคุณภาพต่ำที่ไม่ทราบแหล่งที่มาเป็นเรื่องปกติ และวิกฤตผู้บริโภคยังคุกคามสุขภาพอีกด้วย
Pi Blockchain เกิดมาเพื่อแก้ไขปัญหา Enterprise ดังกล่าวข้างต้น ช่วงเวลาดีๆ จะกลับมาเร็วๆ นี้พร้อมกับการปฏิวัติระดับโลกด้วยระบบนิเวศ Pi ที่ปลอดภัย ถูกกฎหมาย และยั่งยืน ซึ่งรองรับการบูรณาการอย่างรวดเร็วกับบริการของบุคคลที่สาม
โดยสรุป ไม่ว่าจะเป็น SDK, Smart Contract หรือ KYB ถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการรับรองความสมบูรณ์และขยายประโยชน์ใช้สอยของ Pi Network จาก Web2 - Web3, Web3 - Web3 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อย้ายไปสู่เฟส Open Mainnet
สิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นกับผู้บุกเบิก หากเราสร้างยูทิลิตี้ร่วมกัน สร้างมูลค่า Pi ที่ยั่งยืน
เนื้อหาข้างต้นเขียนโดย Fireside Pi
บทความนี้มีไว้เพื่อใช้อ้างอิงเท่านั้น และไม่ถือเป็นคำแนะนำเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล Pi
Nicolas Kokkalis เจ้าของ Pi Network
#เครือข่ายpi_______
อ้างอิงจาก Banana Pioneer of the Future 👌
#solitude
Green mountains, lonely, at the end of the sky
Tall, connecting the sky, formidable
Stretching far, the mountain range, chilling at night
Dizzy, the rugged area, lonely star
Looking up at the sky, the high cliff, the peacock's peak
The sky embraces, cherishing, of the sanctuary
The sky changes, meets, touching the heart
Bringing clouds, the heart, covering, carpeting the silk
The stream splits, the cliff splits, penetrates the river
Eroding, slitting, grooves, the current
Like a separation, the surrounding area, changing
Expanding the wound, turning, flowing, far and wide
Like a heart, a gloomy person, looking no different
Tears flowing, flowing, the heart is cold
A wound is formed, spreading to the stars
Extremely painful, more than a steep mountain
Even the river, leading the bridge, connecting, stretching
Connecting close to the shore, holding on to the dream
Oh, the wound, the sun Huang Jabal
Alone I wait for the healing
Thank you to the owner of the picture
#written by Boonyang Onketphon